
โดย นายเมธากล่าวว่า ปัจจุบันมีปัญหาการคอร์รัปชันในหมู่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีอำนาจตามกฎหมาย จนสั่งสมเป็นโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมทางสังคม มีระบบอุปถัมภ์ และระบอบอำนาจนิยม รวมทั้งสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยหลายกรณีเกี่ยวข้องและพัวพันกับโครงสร้างและวัฒนธรรมของการใช้อำนาจเหล่านั้น โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นประตูด่านชั้นแรก ซึ่งกลับพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนมีส่วนพัวพันกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว และการละเมิดสิทธิมนุษยชนเสียเอง
นายเมธากล่าวต่อไปว่า ตามที่ปรากฏว่ามีการซื้อขายตำแหน่งผู้พิทักษ์สันติราษฎร์โดยมิชอบภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อแลกกับอำนาจและผลประโยชน์ โดยมิได้คำนึงความรู้ความสามารถที่แท้จริง เป็นเหตุให้ตำรวจที่ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมและโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน ทำให้ภาพลักษณ์ของ สตช.ต่ำลง จากผู้รักษากฎหมายกลายเป็นเพียงองค์กรแห่งอำนาจผู้มีอิทธิพล และผลประโยชน์
นอกจากนี้ คดีสิทธิมนุษยชนหลายคดีที่มีตำรวจไปเกี่ยวข้องพัวพัน รวมถึงมีการใช้อำนาจช่วยเหลือกัน จนเป็นอุปสรรคในการคลี่คลายเพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคมและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งหลายกรณีมีการซ้อมทรมานผู้ต้องหา และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกฎหมายปละกระบวนการยุติธรรม อาทิ คดีเชอรี่ แอนน์ ดันแคน คดีนายสมชาย นีละไพจิตร คดีช็อตไข่ผู้ต้องหาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา คดีนายกมล เหล่าโสภาพันธ์ ซึ่งถูกอุ้มหายที่สถานีตำรวจภูธรบ้านไผ่ ต.ขอนแก่น คดีอุ้มฆ่าเยาวชนและประชาชนหลายสิบคดีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เป็นต้น
ตัวแทน ครส.กล่าวอีกว่า ฉะนั้นตัวแทนขอเรียกร้องว่า 1.ขอให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ปฏิรูปตำรวจและกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจังและสอบสวนคดีต่างๆ โดยเร่งด่วน เพื่อสร้างบรรทัดฐานสิทธิมนุษยชนและกระบวนการยุติธรรมไทย เพื่อยุติวัฒนธรรมการใช้อำนาจโดยมิชอบ และสร้าง สตช.ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน และกรณีที่ตำรวจร่วมกระทำผิดจะต้องมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นร่วมสอบสวน-สืบสวนด้วย เช่น สภาทนายความ อัยการพิเศษ องค์กรสิทธิมนุษยชน
2.ขอให้ปฏิรูปการทำงานของดีเอสไอ เพราะจากเหตุการณ์ที่ปรากฏว่ามีการเรื้อค้นตู้เหล็กเก็บเอกสารและสำเนา สำนวนสอบสวนในยามวิกาล ภายในสำนักงานดีเอสไอ ในคดีที่ตำรวจมีส่วนพัวพันในข้อกล่าวหา ซึ่งสะท้อนว่ามีเจ้าหน้าที่ซึ่งอาจเป็นคนในดีเอสไอเองดำเนินการช่วยเหลือผู้กระทำผิดในคดี จึงขอให้รัฐบาลดำเนินการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดอย่างเร่งด่วน และพิจารณาสั่งย้ายหรือพักราชการเพื่อป้องกันการใช้อำนาจข่มขู่คุกคาม และนอกจากนี้ยังเสนอให้มีการประเมินการทำงานของอธิบดี ดีเอสไอ
3.ขอให้สร้างบรรทัดฐานคดีสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยผู้กระทำผิดจะต้องไม่ลอยนวล ไม่ปล่อยให้มีการช่วยเหลือกันในระบบอุปถัมภ์ของผู้มีอำนาจ
ด้าน นายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังจากรับหนังสือร้องเรียนว่า ตนจะพยายามติดตามการสืบสวนคดีต่างๆ ให้โปร่งใส เเละจะพยายามสะสางคดีเก่าๆ เท่าที่สามารถกระทำได้เเละยืนยันว่าจะไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการใช้อำนาจเข้าเเทรกเเซงคดีที่มาร้องเรียน
ขณะนี้เรามีเงินทุนสำหรับการจัดหาเงินทุนอสังหาริมทรัพย์, การระดมทุนในโครงการ, สินเชื่อสะพาน, การก่อสร้างทางการเงินและสินเชื่อสามัญสำหรับโครงการส่งออก / นำเข้าของ บริษัท ในปริมาณมาก
ReplyDeleteนี่คือพื้นที่ของการระดมทุนของเรา:
* สินเชื่อ Bridging
* สินเชื่อธุรกิจ
* สินเชื่อส่วนบุคคล
* สินเชื่อเพื่อการลงทุน
* สินเชื่อรถยนต์
* สินเชื่อก่อสร้าง
* การรวมหนี้
* วงเงินเครดิต
* ให้เช่าซื้อ
* จำนองที่สอง
* การแลกเครดิต
* โครงการการเงิน
* สินเชื่อที่อยู่อาศัย
* สินเชื่อรีไฟแนนซ์
* สินเชื่อเพื่อการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์
* ตัวแทน / โบรกเกอร์
อัตราดอกเบี้ยเงินทุนของเราคือ 3% กับระยะเวลาผ่อนผัน 1 ปีและลูกค้าต้องการให้แน่ใจว่าโครงการของเขา / เธอกับ บริษัท ประกันภัยของยอดรวมสินเชื่อเพื่อรับประกันเงินกู้เป็นหลักประกัน
ส่งอีเมลถึงเรา: standardonlineinvestment@gmail.com